รถบัสไฟฟ้า นวัตกรรมใหม่แห่งการเดินทางที่จะปฏิวัติวงการ รถบัส รถโดยสาร | เทรนด์ใหม่น่าจับตา

0

 


1. ตลาดรถบัสไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตลาดรถบัสไฟฟ้าทั่วโลกระหว่างปี 2566 ถึง 2573  คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ประมาณ 12%  โดยสถิติรถบัสไฟฟ้าในปัจจุบัน โดยเฉพาะภายในปี 2568 นี้ คาดว่าจะมีการใช้งานรถบัสไฟฟ้ามากกว่า 50,000 คันทั่วโลก และจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณภายในปี 2573 การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการสนับสนุนของรัฐบาล โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ จีน อินเดีย และสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังส่งเสริมพลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง


ปัจจุบันประเทศที่ถือเป็นผู้นำระดับโลกในเรื่องการผลักดันประเทศไปสู่การขนส่งแบบไร้การปล่อยมลพิษคือสาธารณรัฐประชาชนจีน  โดยจีนได้ผลักดันหน่วยงานราชการให้หันมาใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการอุดหนุนและจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV กันมากขึ้น นอกจากนี้ จีนยังได้ผลักดันนโยบายสนับสนุนการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในอุตสาหกรรมขนส่งมวลชน อย่างเช่นในอุตสาหกรรมรถบัสโดยสาร โดยปัจจุบันจีนมีจำนวนรถบัสไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่บนท้องถนนมากกว่า 70% ของโลก ยกตัวอย่างเช่น เมืองเซินเจิ้นของจีนได้เปลี่ยนรถบัสทั้งหมดในเมืองให้เป็นรถบัสไฟฟ้าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยปัจจุบันมีรถบัสไฟฟ้ากว่า 16,000 คันให้บริการแก่ผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนต่อวัน ถือเป็นเมืองแรกของโลกที่ใช้รถบัสไฟฟ้าล้วนในระบบขนส่งมวลชน


2. พลังงานไฟฟ้าช่วยลดต้นทุนในอุตสาหกรรมการขนส่งอย่างมาก

ราคาแบตเตอรี่รถบัสไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี จึงส่งผลให้ราคาแบตเตอรี่รถบัสไฟฟ้าจึงลดลงอย่างมาก โดยต้นทุนของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในรถบัสไฟฟ้าลดลงกว่า 85% นับตั้งแต่ปี 2553 ทำให้รถโดยบัสไฟฟ้าสามารถแข่งขันด้านต้นทุนกับรถบัสโดยสารที่ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปได้ นอกจากนี้ รถบัสไฟฟ้ายังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาถูกกว่ารถบัสโดยสารทั่วไป เพราะรถบัสไฟฟ้ามีการบำรุงรักษาที่น้อยกว่ารถบัสทั่วไป และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่า ตามรายงานของสภาระหว่างประเทศว่าด้วยการขนส่งที่สะอาด (ICCT) ระบุว่ารถบัสไฟฟ้าสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานได้มากถึง 40% 


3. ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล

รัฐบาลในหลายประเทศเสนอสิ่งจูงใจให้ผู้ประกอบการหันมาใช้รถบัสไฟฟ้าให้มากขึ้น ทดแทนการใช้รถบัสโดยสารที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง โดยการมอบสิทธิประโยชน์ด้านเครดิตภาษี เงินช่วยเหลือ และเงินอุดหนุนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสหภาพยุโรป อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ต่างตั้งเป้าหมายอย่างจริงจังในการที่จะมีการใช้รถบัสไฟฟ้าแบบเต็ม 100% ภายในปี 2573


4. รถบัสไฟฟ้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนไปใช้รถบัสไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการลดมลพิษทางอากาศ ยกตัวอย่างเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน หลังจากที่มีการเริ่มนำรถบัสไฟฟ้ามาให้บริการ ได้แสดงให้เห็นถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากความสำเร็จนี้จึงผลักดันให้เซินเจิ้นกลายเป็นเมืองแรกของโลกที่มีรถบัสไฟฟ้าทั้งหมด


การปล่อยมลพิษตลอดอายุการใช้งาน: แม้ว่ารถบัสไฟฟ้าจะปราศจากการปล่อยมลพิษ ณ จุดปฏิบัติงาน แต่สถิติที่สำคัญก็คือการลดการปล่อยก๊าซตลอดอายุการใช้งาน (พิจารณาจากการผลิต การชาร์จ และการปฏิบัติงาน) การศึกษาจาก ICCT พบว่าการเปลี่ยนรถบัสดีเซลหนึ่งคันเป็นรถบัสไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ตลอดอายุการใช้งานได้เฉลี่ย 1,400 ตัน


จากความเข้มงวดของกฎระเบียบด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มากขึ้นทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ กำลังผลักดันให้เมืองต่าง ๆ หันมาใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ซึ่งจะเร่งการเปลี่ยนแปลงนำไปสู่การใช้รถบัสไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ ยกตัวอย่างเช่น เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ตั้งเป้าหมายที่จะมีรถโดยสารที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2577


5. เตรียมพร้อมสู่เทคโนโลยีรถบัสไฟฟ้าอัตโนมัติ

อนาคตของรถบัสไฟฟ้ายังสัมพันธ์กับการพัฒนารถบัสโดยสารอัตโนมัติ หรือรถบัสไร้คนขับ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าแรงและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้ ปัจจุบันได้มีการทดลองเบื้องต้นที่กำลังดำเนินการอยู่ในเมืองต่าง ๆ เช่น เมืองเคมบริดจ์ ในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีการทดสอบรถบัสไฟฟ้าอัตโนมัติเพื่อบูรณาการเข้ากับระบบขนส่งสาธารณะในอนาคต


สรุป

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า ตลาดรถบัสไฟฟ้าทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐ ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยประเทศจีนจะยังคงเป็นผู้นำตลาดรถบัสไฟฟ้าระดับโลกต่อไป ด้วยนโยบายที่เข้มแข็งและการลงทุนอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมนี้ คาดว่าประเทศอื่น ๆ จะต้องเร่งปรับตัวตามเพื่อไม่ให้ตกขบวนในการปฏิวัติครั้งสำคัญของวงการขนส่งมวลชนโลกในยุคนี้


แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)